ในนามของ "การพัฒนา"


[ล่าสุด ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เพิ่งตีประเด็นในเรื่องของการเก็บเงินค่าบำรุงการท่องเที่ยวบริเวณอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยเฉพาะบริเวณเกาะพีพีและอ่าวพังงา ติดตามได้ที่เพจ ดร.ธรณ์ ค่ะ]

เราเองเพิ่งไปแวะเกาะพีพีกับครอบครัว พีพีดอนเป็นเกาะที่มีจุดชมวิวสวยติดอันดับต้นๆ ของโลก
ซึ่งในวันนั้นด้วยเวลาอันจำกัด เราก็ไม่ได้ไปดู -_-"
แต่ทันทีที่เราขึ้นถึงพีพีดอน และจริงๆ ก็คงเป็นเหมือนทุกๆ เกาะที่เปิดให้ท่องเที่ยว
เราเห็น "การพัฒนา" มากมาย ที่เกิดขึ้นบนนั้น 
มุมมองและผลประโยชน์ที่ต้องการซึ่งไม่ตรงกัน 
ทำให้เราเรียกมันว่า "การทำลาย" เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

ยานพาหนะที่พาเราไปถึงจุดหมาย แต่ก็ทำให้หาด (ที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหรอกนะ) สกปรกจนน่าจะทำให้คนที่สัมผัส คัน หรือจนกระทั่งปวดแสบปวดร้อน

ป้ายโครงการพัฒนาภูมิทัศน์ของเกาะที่ระบุว่ามีมูลค่าประมาณ 10 ล้านเศษ หมายรวมถึงทางเดินและประติมากรรมอย่างที่เห็น...
สำหรับเรา มันเป็นตัวทำลายความงดงามของธรรมชาติมากกว่า
จริงอยู่ว่าคนที่ไปเที่ยว ไม่ได้มีแค่คนแบบเราที่ต้องการอะไรที่มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ชัดเจน เพราะเราคิดว่าเรามาเสพ "ความงามตามธรรมชาติ" มากกว่า "ความงามที่มนุษย์สร้างขึ้น"
ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง เราคงเลือกที่จะอยู่ในเมืองแทน

แต่เรามองแบบนั้นก็ไม่ถูก เพราะยังมีอีกหลายกลุ่มที่เขาเลือกเสพคนละสิ่งกับเรา
จึงไม่ถูกต้องที่เราจะไปว่าคนอื่นนัก

จริงๆ แล้วถ้าเราเดินไปถึงจุดชมวิว ... เราคงได้เห็น "ความงามที่ธรรมชาติสร้าง" ที่มนุษย์ไม่มีวันทำให้เป็นแบบนั้นได้ แต่เพราะเราเดินไปไม่ถึง ด้วยข้อจำกัดที่เรามี เราจึงเห็นแต่ "สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น" เท่านั้น ตามภาพ



เหมือนกับปลายปี 2013 ที่เราไปปฏิบัติธรรมที่ลำพูน ... แล้วแวะไปซื้อโรตีที่นิมมานซอย 3 เราสลดใจมาก...
ที่เห็นว่า นิมมานกลายเป็นเหมือนผู้หญิงที่ถูกรุมโทรม
เธอเปลี่ยนไปมากจาก ปลายปี 2010 ที่ตอนนั้นแสนจะสดใส...นี่ขนาดเป็นชุมชนเมืองนะ
แล้วอุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่งจะเป็นอย่างไร?

เราเคยคุยกับพี่ๆ เกษตร ซึ่งทำให้จุกมาก...เพราะพี่ๆ ให้เหตุผลว่า ทันทีที่ไม่สนับสนุนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวและปลูกตามๆ กัน เกษตรกรทั้งหลายก็จะบอกว่า จะไปขัดขวางไม่ให้เขารวยเหรอ? เขาก็อยากรวย อยากส่งลูกเรียน M (BA) เหมือนกับทุกๆ คน นั่นแหละ...#การท่องเที่ยวก็เช่นกัน

เราไม่ได้ต่อต้านการพัฒนา...เราไม่ได้คิดว่าการกระตุกให้คิดเรื่องนี้จะเป็นเรื่องการ "ไม่อยากให้ชาวบ้านเจริญ" และเราก็ไม่ได้เชื่อในการทำงานของ NGO ระดับโลกบางแห่ง ... แต่เราเชื่อว่ามีวิธีการพัฒนาที่ยังคงรักษาความงดงามตามธรรมชาติไว้ได้อย่างสมดุลด้วย เพียงแค่เลิกอ้างว่างบไม่พอ แล้วขอให้พยายามคิด มันมีวิธีการอยู่แล้ว และหลายที่เขาก็ทำได้ดี

แต่ให้เราไป "อยู่และดำรงชีวิตแบบธรรมชาติ" จริงๆ เราก็คงอยู่ไม่ได้หรอกนะ
ยังไงเราก็ยังมีความเป็น "คนเมือง" สูงอยู่ดี





No comments: