One day | Pause
ด้วยเหตุที่เพื่อนสาวของเราต้องกลับไปดูแลกิจการ ณ ภูเก็ต
และโดยนิสัยที่เราสองคนมักจะเอนจอยกับการไปเที่ยวและหาที่พักงามๆ (จริงๆ
แล้วจอยเป็นเยอะกว่า 555+) หลักการของพวกเราคือ ดี ประหยัด
สวย คุ้ม ^^ เดิมเคยลงในเฟสบุ๊คแต่ไม่ได้เขียนอะไรยาวๆ
ก็เลยจะเขียนลงในบล็อคไปเลยแล้วกัน
เราเขียนตาม Journey ของเราแล้วกัน
ก่อนพัก >>
จอย สาวผู้ขยัน search หาที่เที่ยวและที่พักน่าพัก
คือบางทีที่พักสวยๆ ก็เป็นเหตุหนึ่งให้เราเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปเที่ยว ^^
ไลฟ์สไตล์ของเพื่อนสาวเราคือความสวยงาม
มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง วินเทจ-วิคตอเรียน คือแนวพื้นฐาน ถ้าจะเท่ก็ต้องแบบมีอะไรเก๋ๆ
ที่จะดึงดูดใจเธอได้เพื่อให้ดูคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ส่วนเรา “อะไรก็ได้” 555+
เหมือนจะเป็นคนง่ายจังเนอะ คือเพื่อนจองแล้วอะไรก็ได้จริงๆ เห็นออกมาสวยหมด
ครั้งแรกที่ได้ดูรูปจากจอยแล้ว เฮ้ยสวยยย ชอบคือเป็นคนบ้าอิฐ
ผิวไม้ อันนี้จริงจัง! ข้างนอกเป็น Chic loft เท่ๆ ไปๆๆ แต่ฟ้าไม่ค่อยเข้าข้าง ข้อจำกัดเยอะ...มีเวลาถ่ายรูปน้อยมาก เสียดาย T_T
การเดินทาง : “ค่อนข้าง” สะดวก เพราะอยู่ในซอย สุขุมวิท 26
เดินจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงศ์ ทางออกฝั่งเดียวกับเอ็มโพเรียม ที่บอกว่า “ค่อนข้าง”
เพราะ
ข้อ 1) ถ้าแบกเป้เนี่ย สบาย
แต่ถ้าเป็นกระเป๋าลากหรือถือนี่ยากแน่ ทางเดินสาธารณะของกรุงเทพ เดินง่ายที่ไหน :(
ข้อ
2) เส้นทางแลดูมืดๆ เหมือนจะไม่น่าปลอดภัยนักสำหรับผู้หญิง
แต่ระหว่างทางมีร้านบาร์ คาราโอเกะสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เยอะ แล้วก็มีโรงแรมอยู่ประมาณ
3 แห่งก่อนถึง One day คือ Arize hotel, Double tree by Hilton และก็ 49 Lucky Hotel 555+ ก็คงปลอดภัยแหละ
ข้อ 3) ป้าย One day เห็นง่ายกลมๆ
ตัวอักษรขาวบนพื้นดำ เด่นตอนกลางคืน
เข้าพัก >>
One day BKK เป็นทั้ง Hostel และ Co-working space ที่ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปท์ชัดเจน ว่า One day | Pause เพราะ
เราจะทำให้หนึ่งวันในกรุงเทพของคุณ ตราตรึงอยู่ในความทรงจำในฐานะที่เป็น
“วันหนึ่งในชีวิต” [We love to make you feel ONEDAY in Bangkok to be memorable as ONEDAY in your life]
เข้าไปแล้วรู้สึกทึ่งกับสถานที่มากๆ นะ
(เพิ่งมารู้ทีหลังเหมือนกันว่าเป็นโกดังเก่า
ตอนแรกคิดว่าเป็นอาคารสำนักงานที่กล้าทำเพดานสูงขนาดนั้นซะอีก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 4 เมตรป่ะ แค่ประตูก็น่าจะ 2.5 แล้วมั้ง)
ความสูงของหน้าต่าง เทียบกับคนตัวเตี้ยๆ อย่างเรา |
ประทับใจในสถานที่มากๆ ค่ะ สวยมาก คือทุกอย่างเป๊ะไปหมด ...
(ไปครั้งที่สองสิ่งที่ไม่เป๊ะมีจุดเดียวมั้ง...ห้องน้ำชั้นล่างง่ะ) คือบางที่อาจจะมีเก็บงานไม่ละเอียดอะไรอย่างนี้
แต่นี่คือแบบ งานเนี๊ยบสุดๆ บรรยากาศจะรู้สึกไม่เหมือนอยู่ใน กทม. เลยเชียว แต่มีความพยายามทำให้รู้สึกว่าอยู่ในเมืองไทยบ้าง
ตรงภาพที่ใช้ตกแต่งทางขึ้นบันได เป็นภาพขาว-ดำ ของเมืองไทยในมุมต่างๆ ส่วนใหญ่เป็น
กทม. ภาพระหว่างทางเดินไปห้องจะเป็นภาพเกี่ยวกับเมืองไทยบ้าง และที่สำคัญ ด้านล่างส่วนที่เป็นห้อง Common มีตู้โค้ก! คือแบบ...ไทยน้ำทิพย์ -_-! แต่ความรู้สึกตอนเราเดินเข้าไปตอนกลางคืน แสงสวยมากเลย
โถงบันไดทางขึ้น ภาพถ่ายสวยๆ ทั้งนั้นค่ะ |
บริเวณด้านนอกก่อนเข้าที่พัก จะผ่านร้านกาแฟ Casa Lapin และ Oneday | Forward Coworking Space ค่ะ |
ห้องพัก >> ที่นี่มีห้องพักที่ตกแต่งแตกต่างกันหลายแบบ เราพักห้อง f อยู่ริมและเดินไกลมาก แต่โอเค ชอบบรรยากาศตอนเดิน อารมณ์ประมาณเด็กหอ รอบข้างเต็มไปด้วยอิฐ 555 (แต่ไม่หลอนนะ) ขนาดห้อง ไม่เกิน 15 ตรม. เตียงใหญ่และนอนสบายมาก ^^ พื้นที่รอบๆ เตียงจึงมีไม่มากนัก ความสะดวกเรื่องของที่แขวนเสื้อผ้าไม่ค่อยสะดวกนัก สำหรับคนที่อาจจะชอบการมีตู้เป็นสัดส่วน ผนังห้องไม่เก็บเสียงนะจ้ะ อาจจะทรมานนิดนึงสำหรับคนที่ sensitive แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา 555+ ด้วยความที่ห้องนี้เป็นห้องที่ใช้ห้องน้ำรวม พื้นที่สำหรับแต่งตัวจึงไม่มีนะคะ มีกระจกจริง แต่แสงไม่พอ ถ้าจะทำงานก็มาทำข้างล่าง
อาหารเช้า >> ผู้เข้าพักจะได้คูปองอาหารเช้าที่มีช่องไว้สำหรับให้เลือก ประเภทของไข่และน้ำค่ะ เป็น Gimmick เล็กๆ น้อยๆ เพราะไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ อาหารใช้ได้นะคะ ไข่อร่อยดี ^^ รับอาหารเช้าที่ห้องอาหาร One day ค่ะ มีรายการอาหารหลากหลายให้เลือกสั่งได้นอกจากเซ็ทอาหารเช้านะคะ
ภาพบน : เห็นขวดน้ำทิพย์มั้ยคะ สองขวดเขียวๆ ภาพล่าง : ข้างเตียงมีพื้นที่เท่าที่จอยยืนค่ะ |
น้ำ >> ได้น้ำทิพย์มาสองขวดค่ะ ด้านความพอเพียงสำหรับเราก็โอเค แต่ว่า อารมณ์แบบห้อง chic loft/Nordic มากๆ แต่เจอขวดน้ำทิพย์ไรงี้ มันทำให้รู้สึกขัดตาง่ะ
Wifi >> มันก็สำคัญนะ ไม่รู้ว่าเราอยู่ในห้องที่ไกลจาก router มากหรือเปล่า สัญญาณมันอ่อนมาก ข้างล่างคงดีมั้ง
สภาพภายในห้องและ key card ค่ะ key card ที่นี่จะมีเสียงเตือนบ่อยนิด ต้องปิดให้สนิทจริงๆ |
อาหารเช้า >> ผู้เข้าพักจะได้คูปองอาหารเช้าที่มีช่องไว้สำหรับให้เลือก ประเภทของไข่และน้ำค่ะ เป็น Gimmick เล็กๆ น้อยๆ เพราะไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ อาหารใช้ได้นะคะ ไข่อร่อยดี ^^ รับอาหารเช้าที่ห้องอาหาร One day ค่ะ มีรายการอาหารหลากหลายให้เลือกสั่งได้นอกจากเซ็ทอาหารเช้านะคะ
ล่างซ้าย : อาหารที่สั่งนะคะ ภาพบนในจานเราคือ สิ่งที่จะได้รับจริงค่ะ (ยกเว้นชาเขียวปั่นนะ) สองสาวยืนโพสต์เก๋ๆ ตรงกระจกหน้าห้องอาหารค่ะ |
ภายในห้องอาหารค่ะ ชื่อ One day ด้วยรึเปล่าน้าาา? |
ตรงด้านหน้าติดกับห้องอาหารจะเป็นร้านกาแฟ Casa Lapin นะคะ ชาเขียวอร่อยมากอ่ะ
Casa Lapin |
พื้นที่ส่วนรวม >>
ห้องครัว: สวยมากกกกก เด่นสุดตรงโต๊ะกินข้าวส่วนกลาง ต้นไม้ตรึม แสงสวยทั้งเช้าและกลางคืน บรรยากาศสไตล์ Barn (เค้าว่ามันคือ Rustic loft ล่ะ) และด้วยความที่เราเฟอะ ขนาดลืมใส่การ์ดลงไป กดเพลินโดยไม่อ่านอะไรเลย เสียดายรูปภาพพพพ ...สิ่งอำนวยความสะดวก มีตู้เย็น (จริงๆ ถ้าเป็น Smeg จะสวยกว่านี้ 555 ชั้นหวังอะไรอยู่!) ตู้กับข้าว...อืม จำไม่ผิดนะ ตู้กับข้าว -_-“ กระจกที่ทำเป็นเขียงหรือเขียงที่ทำเป็นกระจก อันนี้ชอบ อ่างล้างจาน
มองเห็นเขียงกับตู้กับข้าวมั้ยคะ? ... แน่ะ บอกว่าอย่ามองตู้เย็น |
ห้องพักผ่อนส่วนกลาง: มีเครื่องคอมส่วนกลางให้ 2 เครื่อง อารมณ์ประมาณอยู่ในมหาลัย 555 โซฟาน่าเอนอีกหลายตัว ตรงบันไดมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 3 เครื่อง
ห้อง entertainment ประมาณดูหนังฟังเพลง ห้องนี้สวยและน่าสบายมากๆ (แต่ไม่มีเวลาจะใช้ T_T)
ภาพบน : ด้านนอกก่อนเข้าร้านอาหาร ภาพล่าง : ห้อง common ค่ะ |
ห้องน้ำ: ห้องน้ำรวมเริ่ดอ่ะ กว้าง เพดานสูง ชอบมาก มันหอพักดีๆ นี่เอง 555 อ่างล้างหน้าเยอะทั้งจำนวนและไฟ (มันร้อนอ่ะ) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างไดร์เป่าผมมีหลายอันดี ห้องแต่งตัว 3 ห้องย่อย ตะกร้าใส่ผ้ากระจุกกระจิก ห้องอาบน้ำมีแชมพูและครีมอาบน้ำ น้ำแรงดีมาก ที่ทำน้ำอุ่นอยู่สูง (คือไม่ดีสำหรับคนเตี้ยอย่างเรา จะปรับอะไรก็มองไม่เห็น ^^”)
บนซ้าย : ห้องสุขาอยู่ต้นๆ ห้องอาบน้ำคือส่วนที่อยู่ด้านใน บนขวา : เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ล่างซ้าย : โถงทางเดิน ล่างขวา : อ่างล้างหน้าในห้องน้ำหญิง...ตรงข้ามกับอ่างจะเป็นห้องแต่งตัวค่ะ |
เจ้าหน้าที่ >> เฉพาะ front พบทั้งหมด 3 คนด้วยกัน (นิสัย) น่ารักมากๆ 1 คน ที่เหลือกลางๆ ค่ะ คือเคยเจอที่อื่นที่ friendly กว่านี้มากง่ะ บางทีตรงนี้มันเป็นข้อจำกัดของคนเหมือนกันนะ บางคนก็หน้ายิ้มเสมอ บางคนก็อาจจะดูดุแต่จริงๆ friendly
ความคุ้มค่า >> เราว่าคุ้มนะ เสพการตกแต่งสวยๆ ให้อิ่มไปเลย ราคา 1500 เราว่าโอเค เพราะแถวๆ ศาลาแดงก็ 1200++ เรียบง่ายกว่านี้เยอะ Lab D ก็เรท 13-1400 มั้งนะ (ห้องเดี่ยว ห้องน้ำรวม) ห้องจิ๋วกว่ามาก ห้องน้ำก็ไม่อลังเท่า
หลังพัก >>
ก็นั่งเขียน Blog อยู่เนี่ยแหละด้วยความชื่นชม ^^ ถ้าไม่พอใจก็คงจะมี feed back เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว คนเราถ้าไม่ต้องใช้อะไรประจำ ก็จะไม่บ่นนะ แค่ไปครั้งเดียวและไม่กลับไปอีกเท่านั้นเอง...แต่เดี๋ยวนี้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไปนะคะ คือกล้าที่จะ voice มากขึ้นอันนี้ก็ประมาทไม่ได้ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าแก้ไขตามคนที่ voice แล้วเขาจะกลับมาใช้อีกนะ ถ้ามันเป็นจุดที่มีผลกระทบกับคนเยอะๆ ปรับได้ก็ปรับ
เราเข้าไปอ่านรีวิว หลายๆ คนชื่นชมเรื่องการตกแต่งเหมือนเรา แต่ด้วยความที่กรุงเทพมีตัวเลือกเยอะมาก นักท่องเที่ยวบางคนก็บอกว่าอาจจะหาตัวเลือกใหม่ๆ ต่อไป
เราเข้าไปอ่านรีวิว หลายๆ คนชื่นชมเรื่องการตกแต่งเหมือนเรา แต่ด้วยความที่กรุงเทพมีตัวเลือกเยอะมาก นักท่องเที่ยวบางคนก็บอกว่าอาจจะหาตัวเลือกใหม่ๆ ต่อไป
รอบหน้า สาวจอยจะพาเราไปที่ไหนน้าาาา...? |
สำหรับการพักในโรงแรมแบบปกติ คงเป็นกรณีพิเศษขึ้นมาหน่อย ประมาณว่า ทำงานทำการ แบบหาที่พักสำหรับจัด outing คือมุ่งไปที่แนว MICE เลย เพราะแต่ละที่ต้องเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนภายในงบที่มีอยู่ 555 ซึ่งเสียงตอบรับก็โอเคนะ ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน (ต่อมาก็ไม่ได้ทำละ 555+) ไว้จะเอาที่พักตอนไป Outing มารีวิว
เวลารีวิวที่พัก หลักการที่ใช้คือ อย่าเชื่อรูปโฆษณามาก เพราะรูปจากโปร อย่างใน “ชานไม้ชายเขา” คนอะไรถ่ายรูปสวยโคตรๆ กับพวกเราถ่ายออกมามันคนละเรื่องกัน พยายามดูรูปที่คนธรรมดาๆ รีวิว จะไม่ผิดหวังมากนัก
บางที่ก็รูปออกมาสวยมากอย่าง รร. แห่งหนึ่งแถวพัทยา พอไปถึงมันเก่าสุดๆ โทรม อับ คือประสบการณ์ที่ได้รับติดลบเลยทันที ต้องไปดูและสัมผัสเองเท่านั้นค่ะ
No comments:
Post a Comment